พันธุ์ยาง

ลักษณะส่วนต่างๆ ของยางพารา 
          ยางพาราเป็นพืชยืนต้นขนาดใหญ่ มีอายุยืนยาวหลายสิบปีเป็นพืชใบเลี้ยงคู่ ซึ่งมีส่วนประกอบต่างๆ ดังนี้ 
ราก - เป็นระบบรากแก้ว 
ลำต้น - กลมตรง ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วนคือ 
1. เนื้อไม้ ยางพาราจัดเป็นไม้เนื้ออ่อน เนื้อไม้มีสีขาวปนเหลืองอยู่ด้านในกลางลำต้น 
2. เยื่อเจริญ เป็นเยื่อบางๆอยู่โดยรอบเนื้อไม้มีหน้าที่สร้างความเจริญเติบโตให้กับต้นยาง 
3. เปลือกไม้ เป็นส่วนที่อยู่ถัดจากเยื่อเจริญออกมาด้านนอกสุด ช่วยป้องกันอันตรายที่จะมากระทบต้นยาง เปลือกของต้นยางนี้มีความสำคัญต่อเกษตรกรชาวสวนยางมาก 
เนื่องจากท่อน้ำยางจะอยู่ในส่วนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเปลือกด้านในที่ติดอยู่เยื่อเจริญจะมีท่อน้ำยางอยู่มากที่สุด 




ใบ - เป็นใบประกอบโดยทั่วไป 1 ก้านใบจะมีใบย่อย 3 ใบ มีหน้าที่หลักในการปรุงอาหารหายใจและคายน้ำ ใบยางจะแตกออกมาเป็นชั้น ๆ เรียกว่า "ฉัตร" ระยะเวลาเริ่มแตกฉัตรจนถึงใบในฉัตรนั้นแก่เต็มที่จะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน ยางจะผลัดใบในฤดูแล้งของทุกปี ยกเว้นยางต้นเล็กที่ยังไม่แตกกิ่งก้านสาขาหรือมีอายุไม่ถึง 3 ปี จะไม่ผลัดใบ 



ดอก - มีลักษณะเป็นช่อมีทั้งดอกตัวผู้และดอกตัวเมียอยู่ในช่อดอกเดียวกัน ดอกยางทำหน้าที่ผสมพันธุ์โดยการผสมแบบเปิด ดอกยางจะออกตามปลายกิ่งของยางหลังจากที่ต้นยางผลัดใบ 







ผล - มีลักษณะเป็นพูโดยปกติจะมี 3 พู ในแต่ละพูจะเมล็ดอยู่ภายใน ผลอ่อนมีสีเขียวผลแก่มีสีน้ำตาลและแข็ง 











เมล็ด - มีสีน้ำตาลลายขาวคล้ายสีของเมล็ดละหุ่ง ยาวประมาณ 2-2.5 เซนติเมตร กว้างประมาณ 1.5-2.5 เซนติเมตร หนักประมาณ 3-6 กรัม เมล็ดยางเมื่อหล่นใหม่ๆจะมีเปอร์เซ็นต์ความงอกสูงมาก แต่เปอร์เซ็นต์ ความงอกนั้นจะลดลงอย่างรวดเร็วในสภาพปกติเมล็ดยางจะรักษาความ งอกไว้ได้ประมาณ 20 วันเท่านั้น 







น้ำยาง - เป็นของเหลวสีขาวถึงขาวปนเหลืองขุ่นข้น อยู่ในท่อน้ำยางซึ่งเรียงตัวกันอยู่ในเปลือกของต้นยาง ในน้ำยางจะมีส่วนประกอบหลักที่สำคัญ 2 ส่วนคือส่วนที่เป็น "เนื้อยาง" และส่วนที่ "ไม่ใช่ยาง" ตามปกติในน้ำยางจะมีเนื้อยางแห้งประมาณ 25-45 เปอร์เซ็นต์








พันธุ์ยางที่แนะนำสำหรับเกษตรกรทั่วไป
 
          สถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตร ได้ออกคำแนะนำพันธุ์ยางปี 2536 สำหรับเกษตรกรทั่วไปไว้ดังนี้ 
 พันธุ์ยางชั้น 1 ได้แก่ ยางพันธุ์ดีแนะนำให้เกษตรกรปลูกโดยไม่จำกัดพื้นที่ปลูก 
 พันธุ์ยางชั้น 2 ได้แก่ ยางพันธุ์ดี แนะนำให้เกษตรกรปลูกโดยจำกัดพื้นที่ปลูก ปลูกได้ไม่เกินร้อยละ 30 ของพื้นที่ปลูกยางที่ถือครองแต่ละพันธุ์ควรปลูกไม่น้อยกว่า 7 ไร่ 
 พันธุ์ยางชั้น 3 ได้แก่ ยางพันธุ์ดี แนะนำให้เกษตรกรปลูกโดยกำจัดพื้นที่ปลูก ปลูกได้ไม่เกินร้อยละ 20 ของพื้นที่ปลูกยางที่ถือครองแต่ละพันธุ์ควรปลูกไม่น้อยกว่า 7 ไร่ 

พันธุ์ยางที่แนะนำให้ปลูกในแหล่งปลูกยางเดิม (ภาคใต้และภาคตะวันออก) 
 พันธุ์ยางชั้น 1 BPM 24, สงขลา 36 2/, RRIM 600, GT 1, PR 255, PR 261 
 พันธุ์ยางชั้น 2 PB 217, RRIC 110, RRIC 100, PB 260, PB 255, PB 235 
 พันธุ์ยางชั้น 3 KRS 251, PR 305, PR 302, RRIC 101, BPM 1, RRIM 712, KRS 250, KRS 226, KRS 225, KRS 218, PB 311, RRIC 121 

พันธุ์ยางที่แนะนำให้ปลูกในแหล่งปลูกยางใหม่ (ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) 
 พันธุ์ยางชั้น 1 RRIM 600, GT 1, สงขลา 36, BPM 24, PR 255 
 พันธุ์ยางชั้น 2 PB 235, PB 260


ลักษณะของพันธุ์ยางที่ดี 
1. ให้น้ำยางมาก 
2. ต้านทานโรค 
3. ต้านทานลม 
4. เจริญเติบโตเร็วและสม่ำเสมอทั้งก่อนกรีดและหลังกรีด 
5. เป็นโรคเปลือกแห้งน้อย 
6. เปลือกที่กรีดแล้วงอกเร็ว และหนาใกล้เคียงกับเปลือกเดิม 
7. หากใช้สารเคมีเร่งน้ำยางช่วยจะได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นมาก

ปัจจัยสำคัญที่เกษตรกรจะต้องพิจารณาประกอบการตัดสินใจเลือกใช้พันธุ์ยาง 
1. โรคยาง ในแต่ละท้องถิ่นมีการะบาดของโรคแต่ละชนิดแตกต่างกันไป ดังนั้นก่อนที่จะปลูกควรศึกษาและพิจารณาก่อนว่าพื้นที่ที่จะปลูกมีโรคอะไรระบาดบ้าง ระบาดอยู่ในระดับรุนแรงมากน้อยเพียงใดเพื่อจะได้ตัดสินใจเลือกพันธุ์ยางที่ต้านทานโรคนั้นๆได้ถูกต้อง 
2. ลม ในบริเวณที่มีลมแรงควรปลูกเฉพาะพันธุ์ยางที่ต้านทานลมได้ดีเท่านั้น 
3. ความอุดมสมบูรณ์ของดิน ดินแต่ละชนิดเหมาะสมกับพันธุ์ยางแต่ละพันธุ์ไม่เหมือนกัน ยางบางพันธุ์จะให้ผลดีเฉพาะพื้นที่ที่ดินอุดมสมบูรณ์เท่านั้น ถ้านำไปปลูกในพื้นที่ดินเลวจะทำให้การเจริญเติบโตไม่ดี ผลผลิตต่ำ แต่บางพันธุ์ปลูกในพื้นที่ดินเลวก็ให้ผลผลิตแตกต่างจากที่ปลูกในพื้นที่ดินดีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น 
4. ความลึกของหน้าดินและระดับน้ำใต้ดิน พื้นที่ที่มีหน้าดินตื้นและมีระดับน้ำใต้ดินสูงไม่เหมาะที่จะปลูกยาง โดยปกติต้นยางจะชอบพื้นที่ที่มีหน้าดินลึกและมีการระบายน้ำดี แต่ยางบางพันธุ์ก็สามารถปลูกในพื้นที่ที่มีหน้าดินตื้นและมีระดับน้ำใต้ดินสูงได้ 
5. ความลาดชันของพื้นที่ ยางบางพันธุ์ไม่เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่ลาดชัน แต่ยางบางพันธุ์เหมาะหรือพอจะปลูกได้ในสภาพพื้นที่ดังกล่าว

ตาราง ผลผลิตเฉลี่ย (กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี) ของพันธุ์ยางชั้น 1 ในแหล่งปลูกยางเดิมภาคใต้และภาคตะวันออก
ปีกรีด
พันธุ์ยาง   เฉลี่ย
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 
BPM 24 342 361 355 286 321 307 331 350 329   334
สงขลา 36 189 270 328 327 376 397 341 362 361 300 324
RRIM 600  170 231 257 284 327 398 381 402 323 317 309
GT 1 137 180 215 218 253 307 329 367 321 268 260
PR 255 216 277 301 349 302 154 182 223 197   245
PR 261 184 220 233 266 272 266 252 191 180   229

ที่มา: คำแนะนำพันธุ์ยางปี 2536 สถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตร


ตาราง ผลผลิตเฉลี่ย (กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี) ของพันธุ์ยางชั้น 1 ในแหล่งปลูกยางใหม่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ปีกรีด
พันธุ์ยาง   เฉลี่ย
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 
Rrim 600  98 160 277 260 214 298 301 - - - 299
GT 1 77 153 206 252 165 236 267 - - - 194

ที่มา: คำแนะนำพันธุ์ยางปี 2536 สถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตร


ลักษณะต่างๆ ของพันธุ์ยางที่แนะนำให้ปลูก (พันธุ์ยางชั้น 1)

บีพีเอ็ม (BPM)24 สงขลา 36อาร์อาร์ไอเอ็ม (RRIM) 600จีที (GT) 1พีอาร์ (PR) 255พีอาร์ (PR) 261


บีพีเอ็ม (BPM) 24
แม่ X พ่อ GT 1 x AVROS 1734
 แหล่งกำเนิด  อินโดนีเซีย
 ผลผลิต  ผลผลิตสูงมากทั้งในระยะ 2 ปีแรก และปีกรีดต่อๆมา ในช่วงผลัดใบผลผลิตจะลดลงปานกลาง
การเจริญเติบโต ระยะก่อนเปิดกรีดและระหว่างกรีด มีการเจริญเติบโตปานกลาง ทรงพุ่มมีขนาดปานกลาง
 ความหนาของเปลือก  เปลือกเดิมหนามาก เปลือกงอกใหม่หนาปานกลาง
รอยแผลกรีด  ถ้ากรีดลึกเป็นบาดแผลถึงเนื้อไม้ เปลือกงอกใหม่เสียหายปานกลาง
ความต้านทานโรค
- ใบร่วงไฟทอปโทรา ดีมาก
- ใบจุดออยเดียม ปานกลาง
- ใบจุดคอลเทโทตริกัม ปานกลาง
- เส้นดำ ดี
ราสีชมพู  ปานกลา
เปลือกแห้ง  ดีมีจำนวนต้นแสดงอาการเปลือกแห้งน้อย
ความต้านทานลม ปานกลาง
พื้นที่ปลูก  ปลูกได้ในพื้นที่ลาดชัน พื้นที่ที่มีหน้าดินตื้นพื้นที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินสูง และพื้นที่ที่มีความชุ่มชื้นสูง
ข้อแนะนำ/ข้อสังเกต ยางพันธุ์นี้ควรใช้ระยะกรีดที่มีความถี่ของการกรีดน้อย

สงขลา 36
แม่ X พ่อ PB 5/63 x PB 107
 แหล่งกำเนิด  ไทย
ผลผลิต ผลผลิตสูงมากทั้นในระยะ 2 ปีแรก และปีกรีดต่อๆมา ในช่วงผลัดใบผลผลิตจะลดลงน้อยกว่าพันธุ์ RRIM 600 และ GT 1
 การเจริญเติบโต  ระยะก่อนเปิดกรีดและระหว่างกรีดมีการเจริญเติบโตปานกลาง ทรงพุ่มมีขนาดปานกลาง
ความหนาของเปลือก เปลือกเดิมและเปลือกงอกใหม่หนาปานกลาง
 รอยแผลกรีด ถ้ากรีดลึกเป็นบาดแผลถึงเนื้อไม้ เปลือกงอกใหม่เสียหายเพียงเล็กน้อย
ความต้านทานโรค  
ใบร่วงไฟทอปโทรา  ดี
- ใบจุดออยเดียม อ่อนแอ
- ใบจุดคอลเลโทตริกัม อ่อนแอ
- เส้นดำ ปานกลาง
- ราสีชมพู อ่อนแอ
- เปลือกแห้ง ปานกลาง
ความต้านทานลม ปานกลาง
พื้นที่ปลูก  ปลูกได้ในพื้นที่ที่มีหน้าดินตื้น ไม่ควรปลูกในพื้นที่ลาดชัน และมีระดับน้ำใต้ดินสูง
 ข้อแนะนำ/ข้อสังเกต  เนื่องจากน้ำยางของยางพันธุ์นี้ เมื่อนำไปทำเป็นยางแแผ่นดิบจะมีสีคล้ำ การแก้ไขสามารถทำได้โดยใช้สารเคมีโซเดียมเมตาไบซัลๆฟด์ อัตรา 0.02-0.06 กรัมของเนื้อสารบริสุทธิ์ต่อน้ำหนักเนื้อยางแห้ง 1 กิโลกรัมผสมในน้ำยางก่อนทำยางแผ่น (ใช้สารเคมี 2-6 กรัม ผสมน้ำ 100 มิลลิลิตรแล้วนำสารละลายนั้น 10 มิลลิลิตร ผสมน้ำยาง 1 ตะกง ซึ่งน้ำยาง 1 ตะกงมีเนื้อยางแห้งประมาณ 1 กิโลกรัม)

อาร์อาร์ไอเอ็ม (RRIM) 600
แม่ X พ่อ Tjir 1x PB 86
 แหล่งกำเนิด  มาเลเซีย
ผลผลิต ผลผลิตสูงมากทั้งในระยะ 2 ปีแรก และปีกรีดต่อๆมา ในช่วงผลัดใบผลผลิตจะลดลงเพียงเล็กน้อย แต่ในแหล่งปลูกยางใหม่ผลผลิตจะลดลงมาก
การเจริญเติบโต ระยะก่อนเปิดกรีดมีการเจริญเติบโตปานกลาง ในระยะระหว่างกรีดมีการเจริญเติบโตดี ทรงพุ่มมีขนาดใหญ่
 ความหนาของเปลือก  เปลือกเดิมบาง เปลือกงอกใหม่หนา
 รอยแผลกรีด ถ้ากรีดลึกเป็นบาดแผลถึงเนื้อไม้ เปลือกงอกใหม่จะเสียหายรุนแรงมาก
 ความต้านทานโรค  
- ใบร่วงไฟทอปโทรา อ่อนแอมาก
ใบจุดออยเดียม  ปานกลาง
ใบจุดคอลเลโทตริกัม  ปานกลาง
เส้นดำ  อ่อนแอมาก
- ราสีชมพู อ่อนแอมาก
เปลือกแห้ง  ดี มีจำนวนต้นเปลือกแห้งน้อย
ความต้านทานลม ปานกลาง
พื้นที่ปลูก  ปลูกได้ในพื้นที่ลาดชัน ไม่ควรปลูกในพื้นที่ที่มีหน้าดินตื้น และพื้นที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินสูง
ข้อแนะนำ/ข้อสังเกต สำหรับการปลูกยางพันธุ์นี้ทางฝั่งตะวันตกของภาคใต้ และบริเวณชายแดนของภาคตะวันออก ในบางปีที่มีโรคใบร่วงไฟทอปโทราระบาดรุนแรง ผลผลิตจะลดลงมาก

จีที (GT) 1
แม่ X พ่อ พันธุ์ตั้งเดิม
 แหล่งกำเนิด  อินโดนีเซีย
 ผลผลิต  ระยะ 2 ปีแรกของการกรีดให้ผลผลิตปานกลาง ผลผลิตจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในปีต่อๆมา ส่วนในช่วงผลัดใบผลผลิตจะลดลงเล็กน้อย
 การเจริญเติบโต  ระยะก่อนเปิดกรีดมีการเจริญเติบโตปานกลาง ในระยะระหว่างกรีดมีการเจริญเติบโตดี ทรงพุ่มมีขนาดปานกลาง
 ความหนาของเปลือก  เปลือกเดิมหนาปานกลาง เปลือกงอกใหม่บาง ดังนั้นการกรีดยางพันธุ์นี้ไม่ควรกรีดหนา หรือสิ้นเปลืองมากเกินไป เพื่อให้เปลือกที่งอกใหม่มีช่วงเวลาการเจริญเติบโตของเปลือก หนาเพียงพอสำหรับการกลับมากรีดซ้ำ
 รอยแผลกรีด ถ้ากรีดลึกเป็นบาดแผลถึงเนื้อไม้ เปลือกงอกใหม่เสียหายน้อยมาก
 ความต้านทานโรค  
- ใบร่วงไฟทอปโทรา ปานกลาง
- ใบจุดออยเดียม อ่อนแอมาก
ใบจุดคอลเลโทรตริกัม  อ่อนแอมาก
- เส้นดำ ดี
ราสีชมพู  ดี
- เปลือกแห้ง ปานกลาง
ความต้านทานลม ดีมาก จำนวนต้นเสียหายน้อยมาก
 พื้นที่ปลูก ปลูกได้ในพื้นที่ลาดชัน พื้นที่ที่มีหน้าดินตื้นพื้นที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินสูง และทนทานต่อสภาพแห้งแล้งได้ดี
 ข้อแนะนำ/ข้อสังเกต  เพื่อเพิ่มผลผลิตในระยะ 1-2 ปีแรกของการกรีด ให้ใช้สารเคมีเร่งน้ำยางอีเทฟอน (Ethephon) ความเข้มข้น 2.5% ทาในรอยบากใต้รอยกรีด ประมาณ 2.5 เซนติเมตร ปีละ 4 ครั้ง โดยใช้ระบบกรีดครึ่งลำต้นวันเว้นวัน

พีอาร์ (PR) 255
แม่ X พ่อ Tjir 1 x PR 107
 แหล่งกำเนิด  อินโดนีเซีย
 ผลผลิต  ผลผลิตสูงมากในระยะ 2 ปีแรก ในปีกรีดต่อๆมา ผลผลิตสูงส่วนในช่วงผลัดใบผลผลิตจะลดลงเล็กน้อย 
 การเจริญเติบโต  ระยะก่อนเปิดกรีดและระหว่างกรีด การเจริญเติบโตปานกลาง ทรงพุ่มมีขนาดใหญ่
ความหนาของเปลือก เปลือกเดิมและเปลือกงอกใหม่หนา
 รอยแผลกรีด ถ้ากรีดลึกเป็นบาดแผลถึงเนื้อไม้ เปลือกงอกใหม่เสียหายเพียงเล็กน้อย
ความต้านทานโรค  
ใบร่วงไฟทอปโทรา  ปานกลาง
ใบจุดออยเดียม  ปานกลาง 
ใบจุดคอลเลโทรตริกัม  อ่อนแอมาก
- เส้นดำ ดี
ราสีชมพู  ปานกลาง
เปลือกแห้ง  ดีมาก มีจำนวนต้นเปลือกแห้งน้อยมาก
 ความต้านทานลม  ดี มีจำนวนต้นเสียหายน้อย
พื้นที่ปลูก  ปลูกได้ในพื้นที่ที่มีหน้าดินตื้น และพื้นที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินสูง ไม่ควรปลูกในพื้นที่ลาดชัน
ข้อแนะนำ/ข้อสังเกต ในระยะก่อนเปิดกรีดจะมีน้ำยางไหลตามลำต้นและกิ่ง แต่จะหายไปเมื่อต้นยางพาราอายุมาก นอกจากนี้รอยก้านใบเดิมตามลำต้นมักจะนูนออกมาและจะ ปรากฏให้เห็นมากเมื่อต้นยางไม่สมบูรณ์

พีอาร์ (PR) 261
แม่ X พ่อ Tjir 1 x PR 107
แหล่งกำเนิด อินโดนีเซีย
ผลผลิต ผลผลิตสูงมากในระยะ 2 ปีแรก และปีกรีดต่อๆ มา ในช่วงผลัดใบผลผลิตจะลดลงเล็กน้อย 
การเจริญเติบโต ระยะก่อนเปิดกรีดและระหว่างกรีด มีการเจริญเติบโตปานกลาง ทรงพุ่มมีขนาดใหญ่
ความหนาของเปลือก เปลือกเดิมหนาปานกลาง เปลือกงอกใหม่หนามาก
 รอยแผลกรีด ถ้ากรีดลึกเป็นบาดแผลถึงเนื้อไม้ เปลือกงอกใหม่เสียหายเพียงเล็กน้อย
ความต้านทานโรค  
ใบร่วงไฟทอปโทรา  ปานกลาง
ใบจุดออยเดียม  ปานกลาง
ใบจุดคอลเลโทรตริกัม  ปานกลาง 
เส้นดำ  ปานกลาง
ราสีชมพู  ปานกลาง
เปลือกแห้ง  ปานกลาง 
 ความต้านทานลม  ดี มีจำนวนต้นเสียหายน้อย
พื้นที่ปลูก  ปลูกได้ในพื้นที่ที่มีหน้าดินตื้น และพื้นที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินสูง ไม่ควรปลูกในพื้นที่ลาดชัน
ข้อแนะนำ/ข้อสังเกต ลักษณะประจำพันธุ์คล้ายพันธุ์พีอาร์ (PR) 225 แต่มีน้ำยางไหลตามลำต้นและกิ่งในช่วงระยะก่อนเปิดกรีดน้อยกว่า


ลักษณะต่างๆ ของพันธุ์ยางที่แนะนำให้ปลูก (พันธุ์ยางชั้น 2)

พีบี (PR) 217อาร์อาร์ไอซี (RRIC) 110อาร์อาร์ไอซี (RRIC) 100พีบี (PB) 260พีบี (PB) 255บีพี (BP) 235


พีบี (PR) 217
แม่ X พ่อ PB 5/51 x PB 6/9
แหล่งกำเนิด มาเลเซีย 
 ผลผลิต  ในระยะแรกให้ผลผลิตปานกลาง ในปีกรีดต่อๆมา ให้ผลผลิตดีมากส่วนในช่วงผลัดใบผลผลิตจะลดลงมาก
 การเจริญเติบโต  ระยะก่อนเปิดกรีดมีการเจริญเติบโตปานกลาง ในระหว่างกรีดมีการเจริญเติบโตดี
ความหนาของเปลือก เปลือกเดิมบาง เปลือกงอกใหม่หนาปานกลาง
รอยแผลกรีด  ถ้ากรีดลึกเป็นบาดแผลถึงเนื้อไม้ เปลือกงอกใหม่เสียหายค่อนข้างรุนแรง
ความต้านทานโรค  
ใบร่วงไฟทอปโทรา  ปานกลาง
ใบจุดออยเดียม  ปานกลาง 
ใบจุดคอลเลโทรตริกัม  อ่อนแอ
เส้นดำ  ปานกลาง
ราสีชมพู  อ่อนแอ
เปลือกแห้ง  ดี
ความต้านทานลม ดีมาก
พื้นที่ปลูก  เจริญเติบโตได้ดีในที่ลาดชัน ไม่ควรปลูกในพื้นที่ที่มีหน้าดินตื้นและพื้นที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินสูง
ข้อแนะนำ/ข้อสังเกต ตอบสนองต่อการใช้สารเคมีเร่งน้ำยางดี

อาร์อาร์ไอซี (RRIC) 110
แม่ X พ่อ LCB 1320 x RRIC 7
แหล่งกำเนิด ศรีลังกา
ผลผลิต ในระยะแรกให้ผลผลิตสูงมาก ในปีกรีดต่อๆมาและในช่วงผลัดใบผลผลิตจะลดลงเล็กน้อย
การเจริญเติบโต ระยะก่อนเปิดกรีดมีการเจริญเติบโตดีมาก ระหว่างกรีดมีการเจริญเติบโตปานกลาง
 ความหนาของเปลือก  เปลือกเดิมและเปลือกงอกใหม่บาง
รอยแผลกรีด  ถ้ากรีดลึกเป็นบาดแผลถึงเนื้อไม้ เปลือกงอกใหม่เสียหายเพียงเล็กน้อย
 ความต้านทานโรค  
- ใบร่วงไฟทอปโทรา ดีมาก
- ใบจุดออยเดียม อ่อนแอ
- ใบจุดคอลเลโทรตริกัม ปานกลาง 
- เส้นดำ ดีมาก
- ราสีชมพู ปานกลาง
- เปลือกแห้ง ปานกลาง
ความต้านทานลม อ่อนแอ
พื้นที่ปลูก  ไม่ควรปลูกในพื้นที่ลาดชัน พื้นที่ที่มีหน้าดินตื้น และพื้นที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินสูง 

อาร์อาร์ไอซี (RRIC) 100
แม่ X พ่อ RRIM 52 x PB 83 
แหล่งกำเนิด ศรีลังกา
ผลผลิต ในระยะแรกๆให้ผลผลิตสูงมาก ในปีกรีดต่อๆมาและในช่วงผลัดใบผลผลิตจะลดลงเล็กน้อย
การเจริญเติบโต ระยะก่อนเปิดกรีดมีการเจริญเติบโตดีมากระหว่างกรีดมีการเจริญเติบ โตปานกลาง 
 ความหนาของเปลือก  เปลือกเดิมและเปลือกงอกใหม่บาง
รอยแผลกรีด  ถ้ากรีดลึกเป็นบาดแผลถึงเนื้อไม้ เปลือกงอกใหม่เสียหายปานกลาง
ความต้านทานโรค  
ใบร่วงไฟทอปโทรา  ปานกลาง 
ใบจุดออยเดียม  ดี
- ใบจุดคอลเลโทรตริกัม ปานกลาง 
- เส้นดำ ปานกลาง
- ราสีชมพู ปานกลาง
- เปลือกแห้ง ดี
 ความต้านทานลม  ดีมาก
 พื้นที่ปลูก ไม่เหมาะที่จะปลูกในพื้นที่ลาดชัน พื้นที่ที่มีหน้าดินตื้นและพื้นที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินสูง

พีบี (PB) 260
แม่ X พ่อ PB 5/51 x PB 49
แหล่งกำเนิด มาเลเซีย
 ผลผลิต  ในระยะแรกให้ผลผลิตสูงมาก ในปีกรีดต่อๆมาผลผลิตจะลดลงปานกลาง ส่วนในช่วงผลัดใบผลผลิตจะค่อนข้างสูง 
 การเจริญเติบโต  ระยะก่อนเปิดกรีดมีการเจริญเติบโตดี ในระหว่างกรีดมีการเจริญเติบโตปานกลาง
ความหนาของเปลือก เปลือกเดิมค่อนข้างบางเปลือกงอกใหม่บาง
 รอยแผลกรีด ถ้ากรีดลึกเป็นบาดแผลถึงเนื้อไม้ เปลือกงอกใหม่จะเสียหายค่อนข้างรุนแรง
ความต้านทานโรค  
ใบร่วงไฟทอปโทรา  ปานกลาง 
ใบจุดออยเดียม  ปานกลาง 
ใบจุดคอลเลโทรตริกัม  ปานกลาง 
เส้นดำ  ปานกลาง
ราสีชมพู  ดี
- เปลือกแห้ง ปานกลาง
ความต้านทานลม ดี
 พื้นที่ปลูก สามารถปลูกได้ในพื้นที่ลาดชัน พื้นที่ที่มีหน้าดินตื้นและพื้นที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินสูง

พีบี (PB) 255
แม่ X พ่อ PB 5/51 x PB 32/36
แหล่งกำเนิด มาเลเซีย 
 ผลผลิต  ในระยะแรกให้ผลผลิตสูงมาก ในปีกรีดต่อๆมาและในช่วงผลัดใบผลผลิตจะลดลงปานกลาง
 การเจริญเติบโต  ระยะก่อนเปิดกรีดมีการเจริญเติบโตดีมากในระหว่างกรีดมีการเจริญ เติบโตปานกลาง
 ความหนาของเปลือก  เปลือกเดิมหนา เปลือกงอกใหม่ค่อนข้างหนา
 รอยแผลกรีด ถ้ากรีดลึกเป็นบาดแผลถึงเนื้อไม้ เปลือกงอกใหม่จะเสียหายปานกลาง
ความต้านทานโรค  
ใบร่วงไฟทอปโทรา  อ่อนแอ
ใบจุดออยเดียม  ปานกลาง
ใบจุดคอลเลโทรตริกัม  ปานกลาง
เส้นดำ  ปานกลาง
ราสีชมพู  อ่อนแอ
เปลือกแห้ง  ปานกลาง
 ความต้านทานลม  ดี
พื้นที่ปลูก  สามารถปลูกได้ในพื้นที่ลาดชัน พื้นที่ที่มีหน้าดินตื้นและพื้นที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินสูง

บีพี (BP) 235
แม่ X พ่อ PB 5/51 x PBS 78
แหล่งกำเนิด มาเลเซีย
 ผลผลิต  ในระยะแรกให้ผลผลิตสูงมาก ในปีกรีดต่อๆมา ผลผลิตลดลงปานกลางและในช่วงผลัดใบผลผลิตจะค่อนข้างสูง
การเจริญเติบโต ระยะก่อนเปิดกรีดมีการเจริญเติบโตดีมากในระหว่างกรีดมีการเจริญ เติบโตปานกลาง
ความหนาของเปลือก เปลือกเดิมหนาปานกลาง เปลือกงอกใหม่ค่อนข้างบาง 
รอยแผลกรีด  ถ้ากรีดลึกเป็นบาดแผลถึงเนื้อไม้ เปลือกงอกใหม่เสียหายค่อนข้างรุนแรง
ความต้านทานโรค  
ใบร่วงไฟทอปโทรา  ปานกลาง 
ใบจุดออยเดียม  อ่อนแอมาก
- ใบจุดคอลเลโทรตริกัม อ่อนแอมาก
เส้นดำ  ปานกลาง
ราสีชมพู  ปานกลาง
เปลือกแห้ง  ปานกลาง
 ความต้านทานลม  ปานกลาง
 พื้นที่ปลูก ไม่เหมาะที่จะปลูกในพื้นที่ลาดชัน พื้นที่ที่มีหน้าดินตื้นและพื้นที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินสูง

ที่มา : http://www.reothai.co.th/Para8.html